จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ นายสิริวัฒน์              นามสกุล   จันทร์สุข
ชื่อเล่น     นิว              ห้อง BC3           เกรดเฉลี่ย   2.67
วัน/เดือน/ปีเกิด     7 เมษายน   พ.ศ. 2532          อายุ   21  ปี
น้ำหนัก   67 กิโลกรัม  ส่วนสูง  168  เซนติเมตร      
ที่อยู่ปัจจุบัน  97/99  ซอยจรัญสนิทวงศ์ 53   ถนนจรัญสนิทวงศ์
แขวงบางบำหรุ   เขตบางพลัด  กรุงเทพมหานคร  10700
E-mail  u51152792076@gmail.com   
เพื่อนสนิท  นางสาวอรุณวรรณ  ถาวรศรี
งานอดิเรก เล่นอินเตอร์เน็ต     คติประจำใจ  ทำวันนี้ให้ได้ที่สุด

วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ

สรุปสิ่งที่ได้จากการเรียน การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ

          
การบรรยายครั้งที่ปฐมนิเทศ (วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2553)     
โดย อ.สาระ มีผลกิจ
ในวันนี้เป็นวันแรกของการเรียนการสอนรายวิชา การเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพการบริหารธุรกิจ 3  ซึ่งภายใน มีการบรรยายเกี่ยวกับเรื่อง เกณฑ์การให้คะแนน เกี่ยวกับการแต่งกายเมื่อเข้ารับฟังการบรรยาย และได้แนะนำอาจารย์ประจำหลักสูตรต่าง ๆ และที่สำคัญในการบรรยายครั้งนี้ก็คือ การบรรยายเกี่ยวกับความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  โดย      อ.สาระ  กิจมี
            สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ  สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้ก็คือ ได้รู้ถึงเรื่องความพร้อมในการเรียนเตรียมฝึก ความตรงต่อเวลา การแต่งกาย เกณฑ์การให้คะแนน และ ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ว่ากว่าจะมาเป็นปัจจุบันได้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ใครเป็นผู้ก่อตั้ง และที่สำคัญทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกรักมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตมากยิ่งขึ้น

การบรรยายครั้งที่การพัฒนาบุคลิกภาพและธนาคารความดี 
(วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2553)      โดย ผศ.โรจนา ศุขพันธ์
            ในวันนี้ได้เรียนรู้ถึง คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ ความสำคัญของบุคลิกภาพที่ดี องค์ประกอบของบุคลิกภาพ  ประเภทของการปรับปรุงบุคลิกภาพ กลยุทธการปรับปรุงก้าวสู่บุคลิกภาพที่ดี  กิริยาท่าทาง ธนาคารความดี และภายในการบรรยายครั้งนี้ได้มีการทายวันเกิดว่าวันเกิด ตรงกับบุคลิกภาพอย่างไร  มีความสนุกสนาน โดย ผศ.โรจนา ศุขพันธ์
            สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ  สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้ก็คือ ข้าพเจ้าได้รู้ว่ากว่าจะมาเป็นบัณฑิตได้นั้นควรที่จะประพฤติตนอย่างไร และบุคลิกภาพเป็นอย่างไร  และเมื่อไปทำงานตามสถานที่ต่างๆ ควรที่จะประพฤติตนเป็นอย่างไร กิริยามารยาทเป็นอย่างไร เพื่อที่จะให้เพื่อนร่วมงานเกิดความประทับใจในตัวเรา

การบรรยายครั้งที่การวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล
(วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2553)      โดย คุณกษม ภูติจินดานันท์
            ในวันนี้ได้รับการบรรยายเกี่ยวกับเรื่อง การวางแผนทางการเงิน การบันทึกรายรับรายจ่าย การวิเคราะห์ข้อมูลเมื่อได้ทำงานแล้ว หลักของการมีเงิน และข้อคิดเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินส่วนบุคคลโดยคุณกษม ภูติจินดานันท์
            สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้ก็คือ ข้าพเจ้าได้รู้ว่าการที่จะได้เงินมาแต่ละบาทนั้น ยากที่แค่ไหนที่จะได้มา และเมื่อข้าพเจ้าได้รับการบรรยายครั้งนี้ ทำให้ข้าพเจ้าได้คิดที่จะทำรายรับ  รายจ่ายของแต่ละเดือน เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้รู้ว่า เงินแต่ละเดือนที่ข้าพเจ้าได้ใช้ไปนั้น ได้ใช้ในสิ่งที่จำเป็นหรือสิ่งที่ไม่จำเป็น เป็นจำนวนเงินเท่าไร และได้รู้ว่า เงินที่เหลือแต่ละเดือนเป็นเงินเท่าไร ทำให้ข้าพเจ้ามีเงินออมได้มากและเป็นระบบยิ่งขึ้น

การบรรยายครั้งที่ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
(วันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ.2553)      โดย อ.ปรีชา ร่วงลือ
            ในวันนี้ได้รับการบรรยายเกี่ยวกับเรื่องภาษาไทยในชีวิตประจำวัน  ภาษาในวัยรุ่น การเขียนพยัญชนะที่ถูกต้อง ก- คำเพี้ยน คำวิบัติ โดย อ.ปรีชา ร่วงลือ
            สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้ก็คือ การเขียนภาษาไทยที่ถูกต้อง โดยเฉพาะ พยัญชนะไทย ก   การอ่าน และใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ไม่ตามกระแส และไม่ทำให้ภาษาไทยวิบัติ

การบรรยายครั้งที่จรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรม
(วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2553)      โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ
            ในวันนี้ได้รับการบรรยายเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรม การบริหารจัดการตนเอง จิตมนุษย์ การตอบแทนท่านผู้มีพระคุณ โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ
            ได้สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับ  สิ่งที่ข้าพเจ้าได้รับในวันนี้ก็คือ ก่อนที่เราจะไปบริหารจัดการ สถานที่ทำงานต่าง ๆ สิ่งสำคัญจะต้องบริหาร ชีวิต อารมณ์  และเวลาของตนเองเสียก่อน และถ้าเรามี 3 สิ่งนี้ เราก็สามารถออกไปบริหารจัดการ

         




บุคลิกภาพสไตล์ BIZCOM

     
บุคลิกภาพเป็นเรื่องของภาพรวมที่ตัวเราแสดงออกไป ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว โดยมีคนอื่นมองอยู่ หรือรู้สึกกับสิ่งที่เราแสดงออก ดังนั้น จึงต้องมีการระมัดระวังและตกแต่งเสริมเติมให้บุคลิกภาพของเรายิ่งน่ามอง และเป็นที่ประทับใจของคนรอบตัว เราจึงสมควรที่จะมีบุคลิกภาพดังต่อไปนี้

1. การมอง
สายตาสามารถบอกถึงความรัก ความเกลียดชัง ความเมตตาปรานี ความโกรธแค้น ความเคารพนับถือ หรือความเหยียดหยาม ดูหมิ่นดูแคลนได้ ฉะนั้น เมื่อเราจะมองใคร เราจะต้องพยายามใช้สายตาด้วยความสุภาพเรียบร้อย ระวังในการใช้สายตาอย่าให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดหรือรู้สึกติดลบได้

2. การแต่งกาย
การแต่งกายบ่งบอกความพิถีพิถันและเอาใจใส่ตัวเอง ช่วยทำให้คนคนหนึ่งดูดีหรือดูแย่ได้ ทุกครั้งที่เลือกเครื่องแต่งกายหรือ กำลังจะแต่งกาย ให้ต้องคำนึงถึงความสะอาดเรียบร้อย ถูกต้องและเหมาะสมกับกาลเทศะ แต่งกายให้พอดี อย่าให้มากเกินไปหรือน้อยเกินไปจนกลายเป็นน่าเกลียด

3. การพูด
ต้องมีศิลปะในการพูด พูดให้ชนะใจผู้ฟัง โดยจะต้องใช้คำพูดที่มีเหตุผล สุภาพ ไพเราะ มีน้ำเสียงชวนฟัง เสียงดังฟังชัด ฉะฉาน และใช้คำพูดที่เหมาะสมกับผู้ฟัง โดยคำนึงถึงวัย เพศ ระดับการศึกษา อาชีพ และความสนใจพิเศษของผู้ฟัง  ทั้งยังต้องคำนึงถึงสถานที่ เวลา และโอกาสด้วย

4. การเดิน
ให้เดินตัวตรง อกผายไหล่ผึ่งเพื่อให้ดูสง่า แต่ไม่ต้องถึงกับหลังตรงตัวแข็งเหมือนนักเรียน นายร้อย เดินให้มีท่าทางสง่าและเรียบร้อย เวลาเดินให้ก้าวเท้ายาวพอประมาณ และสอดคล้องกับเสื้อผ้าหรือรองเท้าที่สวมใส่ว่าก้าวแค่ไหนจึงดูคล่องแคล่วและปลอดภัย  ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงดังจนเกินไป เพราะเสียงฝีเท้าจะไปรบกวนผู้อื่น ไม่เดินผ่ากลางผู้อื่นที่ยืนสนทนากันอยู่

5. การแสดงท่าทาง
ต้องระวังท่าทางที่ไม่สวยงาม เวลาพูดหรือทำอะไรก็ตาม อย่ามีการแสดงท่าประกอบมากเกินไปจนน่าเกลียด หรือแสดงท่าที่ไม่สุภาพ ท่าทางที่ดีจะต้องมาจากพื้นฐานของความสงบ สำรวม ให้เกียรติทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ควรมีท่าทางประกอบเพื่อให้ดูผ่อนคลาย เป็นธรรมชาติ สง่า และเสริมในสิ่งที่พูดหรือเล่า นอกเหนือจากนั้นอาจไม่จำเป็นต้องมีท่าทาง ประกอบแต่อย่างใด

6. ทักษะในการทำงาน
         ใน การทำงานใดๆ ก็ตามจะต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ ต้องทำด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ด้วยความชำนาญ และให้ได้ผลงานดีเด่น ทำด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่าให้น้อยไปกว่าความสามารถที่เรามีหรือทำ ได้ ความน่าชื่นใจของผู้ร่วมงานหรือหัวหน้างานทุกคนก็คือ การมีเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ทำงาน "เต็มความสามารถ" อยู่ตลอดเวลา นั่นคือบุคลิกแห่งความสำเร็จด้วย

7. สุขภาพ
         ต้อง ระวังสุขภาพให้ดี อย่าให้มีโรค ระวังรักษาสุขภาพร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้ที่ป่วยออดๆ แอดๆ จะดูเป็นคนขี้โรค ซึ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าน่าชื่นชม ดูอ่อนแอ ไม่คล่องแคล่ว โรคบางโรคส่งผลถึงความซีดเซียว ห่อเหี่ยว หม่นหมอง จึงขาดความสง่าราศี การดูแลสุขภาพให้ดีคือต้นทุนของการพัฒนาบุคลิกภาพที่ สำคัญที่สุด
         สุขภาพ นั้น ยังหมายถึงรูปร่างและทรวดทรงด้วย อยากแต่งกายได้สวย หล่อ มีสง่า สะดุดตา ก็ต้องมีรูปร่างที่ดีเป็นพื้นฐานอยู่ก่อน เสื้อผ้าที่มีรสนิยม เข้ากับสีผิว กาลเทศะ และฐานภาพของผู้สวมใส่ จะยิ่งขับเน้นให้ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นบุคลิกภาพที่ดีสร้างเสริมกันได้ ค่ะ ไม่มีใครดูดีมาแต่อ้อนแต่ออก มาพัฒนากันทีละเล็กทีละน้อยในภายหลังทั้ง นั้น แต่ต้องทำอย่างเป็นธรรมชาติ นั่นแหละค่ะ คือความดูดีที่แท้จริง